วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ลักษณะข้อมูลแบบดิจิดอล

                บิต (Bit)
                เป็นหน่วยข้อมูลดิจิตอลที่เล็กที่สุดใช้ระบบคอมพิวเตอร์แบบดิจิตอล และทฤษฎีข้อมูลข้อมูลหนึ่งบิต มีสถานะที่่เป็นไปได้ 2 สถานะ คือ

                              บิต              0               (ปิด)
                              บิต              1               (เปิด)
เคลาด์ อี แชนนอน (Claude E. Shannon) เริ่มใช้คำว่า บิต ในงานเขียนของเขาในปี พ.ศ.2491 โดยย่อจากคำเต็มคือ Binary Digit (หรือ Binary Unit) แชนนอนได้กล่าวถึงที่มาของคำนี้ว่ามาจาก จอห์น ดับบลิว ทูคีน์ (John W. Tukey)

               ไบต์ (Byte)
               เป็นกลุ่มของบิต ซึ่งเดิมมีได้หลายขนาด แต่ปัจจุบัน มักเท่ากับ 8 บิต ไบต์ขนาด 8 บิต มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ออกเท็ต (Octet) สามารถเก็บค่าได้ 256 ค่า (28 ค่า, 0 ถึง 255) ส่วนปริมาณ 4 บิต เรียกว่านิบเบิล (Nibble) สามารถแทนค่าได้ 16 (24 ค่า, 0 ถึง 15)

               เวิร์ด (Word)
               เป็นคำที่ใช้เรียกจำนวนบิตที่มากขึ้น แต่ก็ไม่มีขนาดเป็นมาตรฐานตายตัว บนเครื่องคอมพิวเตอร์สถาปัตยกรรม IA - 32 จำนวน 16 บิตจะเรียกว่าเวิร์ด ในขณะที่ 32 บิตเรียกว่าดับเบิลเวิร์ด (Double Word) หรือ Dword ในขณะที่สถาปัตยกรรมอื่น ๆ หนึ่งเวิร์ดมีค่าเท่ากับ 32 บิต, 64 บิต หรือค่าอื่น ๆ
                ในระบบโทรคมนาคม หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ความเร็วในการส่งนิยมใช้หน่วยในรูปของบิตต่อวินาที (bps - bits per second) บิตเป็นหน่วยวัดข้อมูลเล็กที่สุดที่ใช้กันทั่วไป แต่ในขณะนี้มีการวิจัยกันในเรื่องการคำนวณทางควอนตัม (Quantum Computing) ซึ่งใช้หน่วยวัดข้อมูลเป็นคิวบิต (Qubit) (Quantum bit)

           หน่วยนับ
                   1         กิโลบิต  (Kb)       =      1,000 บิต                    หรือ 1,024 บิต
                   1         เมกะบิต (Mb)      =      1,000 กิโลบิต              หรือ 1,024 กิโลบิต
                   1         จิกะบิต   (Gb)      =      1,000 เมกะบิต             หรือ 1,024 เมกะบิต
                   1         เทราบิต (Tb)       =      1,000 จิกะบิต               หรือ 1,024 จิกะบิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น