บิต (Bit)
เป็นหน่วยข้อมูลดิจิตอลที่เล็กที่สุดใช้ระบบคอมพิวเตอร์แบบดิจิตอล และทฤษฎีข้อมูลข้อมูลหนึ่งบิต มีสถานะที่่เป็นไปได้ 2 สถานะ คือ
บิต 0 (ปิด)
บิต 1 (เปิด)
เคลาด์ อี แชนนอน (Claude E. Shannon) เริ่มใช้คำว่า บิต ในงานเขียนของเขาในปี พ.ศ.2491 โดยย่อจากคำเต็มคือ Binary Digit (หรือ Binary Unit) แชนนอนได้กล่าวถึงที่มาของคำนี้ว่ามาจาก จอห์น ดับบลิว ทูคีน์ (John W. Tukey)
ไบต์ (Byte)
เป็นกลุ่มของบิต ซึ่งเดิมมีได้หลายขนาด แต่ปัจจุบัน มักเท่ากับ 8 บิต ไบต์ขนาด 8 บิต มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ออกเท็ต (Octet) สามารถเก็บค่าได้ 256 ค่า (28 ค่า, 0 ถึง 255) ส่วนปริมาณ 4 บิต เรียกว่านิบเบิล (Nibble) สามารถแทนค่าได้ 16 (24 ค่า, 0 ถึง 15)
เวิร์ด (Word)
เป็นคำที่ใช้เรียกจำนวนบิตที่มากขึ้น แต่ก็ไม่มีขนาดเป็นมาตรฐานตายตัว บนเครื่องคอมพิวเตอร์สถาปัตยกรรม IA - 32 จำนวน 16 บิตจะเรียกว่าเวิร์ด ในขณะที่ 32 บิตเรียกว่าดับเบิลเวิร์ด (Double Word) หรือ Dword ในขณะที่สถาปัตยกรรมอื่น ๆ หนึ่งเวิร์ดมีค่าเท่ากับ 32 บิต, 64 บิต หรือค่าอื่น ๆ
ในระบบโทรคมนาคม หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ความเร็วในการส่งนิยมใช้หน่วยในรูปของบิตต่อวินาที (bps - bits per second) บิตเป็นหน่วยวัดข้อมูลเล็กที่สุดที่ใช้กันทั่วไป แต่ในขณะนี้มีการวิจัยกันในเรื่องการคำนวณทางควอนตัม (Quantum Computing) ซึ่งใช้หน่วยวัดข้อมูลเป็นคิวบิต (Qubit) (Quantum bit)
หน่วยนับ
1 กิโลบิต (Kb) = 1,000 บิต หรือ 1,024 บิต
1 เมกะบิต (Mb) = 1,000 กิโลบิต หรือ 1,024 กิโลบิต
1 จิกะบิต (Gb) = 1,000 เมกะบิต หรือ 1,024 เมกะบิต
1 เทราบิต (Tb) = 1,000 จิกะบิต หรือ 1,024 จิกะบิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น